ตีโจทย์ผิด หรือแค่หลงทาง? จากใจคนไทยต่อ Thailand Pavilion ในงาน EXPO 2017 (Future Energy)

ผมเป็นคนหนึ่งที่ติดตามงาน World Expo ที่จัดขึ้นในประเทศต่างๆทุกๆที เรียกว่าตามดู ตามเชียร์ประเทศไทยมาโดยตลอดก็ว่าได้ ซึ่งแต่ละปีที่ผ่านมาผมมองว่าประเทศไทยเราทำได้ดีมากๆในหลายมิติ เทียบชั้นกับประเทศที่พัฒนาแล้วได้เลย มาถึงปีล่าสุดนี้พึ่งเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการไปสดๆร้อนๆเมื่อวันที่ 10 ที่ผ่านมานี้ครับ ช่วงก่อนเปิดงาน หลายคนคงได้เห็นข่าวตามโซเชียลมีเดียกันบ้าง ดังสุดก็เห็นจะเป็นเรื่อง ดราม่า mascot น้องข้าวโพด กับ น้องฟุนัชชี่ ของญี่ปุ่น ซึ่งถ้าข้ามเรื่องนี้ไป แล้วมามองเรื่อง concept รวมของงาน (Future energy) ซึ่งผมสนใจเป็นพิเศษ ก่อนที่งานจะเริ่มผมได้ดู Presentation ที่ปล่อยออกมาทาง YouTube ยอมรับว่าค่อนข้างงงๆกับเนื้อหานิดหน่อยครับ จึงนำไปให้เพื่อนๆในแวดวงพลังงานดู เค้าก็รู้สึกงงๆแปลกๆเหมือนกัน เลยอยากทราบความเห็นของเพื่อนๆครับว่า คิดยังไงกันบ้างครับ

ขอเกริ่นก่อนว่า งาน International Expo นั้นจัดขึ้นทุกๆปี และแต่ละปีก็จะมี Theme แตกต่างกันไป เช่นบางปีเป็น เรื่องน้ำ เรื่องอาหาร อะไรแบบนี้ ซึ่งแต่ละปีทุกประเทศก็จะงัดเอาเทคโนโลยี วิสัยทัศน์ หรือโปรเจคต่างๆ ออกมาประชันกัน พูดง่ายๆก็คืองานอวดของกันนั่นแหละครับ แต่เป็นสเกลในระดับสากล ซึ่งงานนี้ใครทำได้ดี ก็จะส่งผลทั้งในเรื่องของ ภาพลักษณ์ ต่อยอดไปถึงเรื่องของเศรษฐกิจ ที่ส่งผลต่อการเจรจาทางการค้าต่างๆ เรียกได้ว่าสร้างประโยชน์ให้ประเทศได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว

ในปีนี้ Theme ของงานคือ Future Energy หรือ พลังงานแห่งอนาคต ซึ่งของไทยเราได้เข้าร่วมใน Concept Bioenergy for all ตามลิงค์นี้ครับ  https://youtu.be/TEbTt2620yA
จากคลิปจะเห็นองค์ประกอบในงานต่างๆ ซึ่งทำให้ผมเกิดคำถามดังนี้ครับ

1. Mascot ข้าวโพดน้อย หรือ น้องพลัง.... อันนี้ผมงงมากครับ เพราะถ้าเรานึกถึงพลังงานชีวภาพอย่างการผลิตเอทานอล ตัวเอกสำคัญก็น่าจะเป็น อ้อย หรือ มันสำปะหลัง (รึเปล่า?) เหมือนกับ ถ้าเป็นไบโอดีเซล ก็จะนึกถึงต้นปาล์มอะไรแบบนั้น ดังนั้นการเลือกน้องข้าวโพด ไปเป็นตัวแทนสื่อสารพลังงานทดแทน สำหรับผม ก็คล้ายๆกับการบอกว่าประเทศเรา ปลูกยางพาราเป็นหลัก (แทนที่จะเป็นข้าว) อะไรทำนองนี้อ่ะครับ
**ส่วนเรื่องดราม่า น้องข้าวโพด กับ น้องฟุนัชชี่ ของญี่ปุ่น มันคนละเรื่องกัน ผมขอไม่นำมารวมกันครับ

2. เราเรียก Pavillion ว่า 'ศาลาไทย' ซึ่งก็โอเค ไม่ได้ผิดครับ แต่..เพื่อ?? อุตส่าห์ดั้นด้นไปไกลบ้านไกลเมือง เพื่อโชว์พลังงานในอนาคต แถมห้องนิทรรศกาลที่แยกเป็น 3 ห้อง ห้องที่1 ดูงงมาก เพราะมันคือ ห้องศิลปวัฒนธรรม โชว์วิถีความเป็นอยู่ แถมมีเวทีแสดงวัฒนธรรม อยู่กลางห้องอีก ถ้าถามผม มันคือการสื่อสารแบบเอาทุกอย่าง นู่นนี่นั่นมายำรวมกัน ซึ่งมันทำให้คนดูงงว่า Key Message ที่ต้องการจะสื่อคืออะไร? ในความคิดเห็นของผมคิดว่า งานนี้ควรทำออกมาให้ตื่นตาตื่นใจ แบบ เฮ้ย ประเทศไทยทำได้ขนาดนี้เลยหรอ มากกว่าจะมาพูดเรื่องวัฒนธรรมซึ่งเราเองก็แข็งแรงด้านนี้มากอยู่แล้ว ต่อให้ไม่เอามาโชว์ในงานอีก คนทั้งโลกก็รับรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว กลับกัน การสื่อสารเรื่องพลังงานอนาคตของเราดูอ่อนมาก ไม่สมกับที่พัฒนาโคตรงการอะไรต่อมิอะไรมานาน ซึ่งน่าเสียดายมากจริงๆ

3. ห้องนิทรรศกาลส่วนที่3 ช่วงแรกดีหมด มาตกม้าตายตอนจบที่เอาสินค้ามาจัดแสดง สุดท้ายก็ต้องมีสินค้า หัตถกรรม ศิลปวัฒนธรรมมาปนอยู่ดี ซึ่งว่ากันจริงๆ สินค้าที่เกี่ยวกับพลังงานผมว่าก็มีเยอะแยะ ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเอาสินค้าอื่นๆมาปนด้วย ราวกับว่าสินค้าพลังงานของเราไม่พอ เลยต้องยกอย่างอื่นมาเสริมอะไรทำนองนั้น และอีกส่วนที่เป็น Business Matching ผมไม่แน่ใจว่าจำเป็นหรือไม่ ใช่วัตถุประสงค์หลักรึเปล่า คงต้องรบกวนผู้รู้มาชี้แจงนะครับ

สุดท้ายนี้ บอกตรงๆว่าผมก็ยังเชียร์ประเทศไทยอยู่ดีเหมือนอย่างเดิมครับ แค่รู้สึกว่า การสื่อสารเรื่องพลังงานแห่งอนาคตของเรารอบนี้มันช่างอ่อนแรงเหลือเกิน เมื่อเทียบกับชาติอื่นๆ หากเพื่อนๆพี่ๆท่านไหนมีความคิดเห็นอย่างไร หรือใครมีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมของจริงที่คาซัคสถานมาแล้ว (เพราะผมยังไม่มีโอกาสได้ไปชม) มาเล่าให้ฟังมาแบ่งปันความคิดกันครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่